เจวายเจ ปิดฉากคอนเสิร์ตปี 2014 ที่ไทย ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
เพราะทุกวินาทีคือความประทับใจ พร้อมให้คำสัญญา “จะกลับมาอีกแน่นอน”
ปิดฉากกันไปแล้วกับ คอนเสิร์ต อี-อินเทนท์ พรีเซ้นต์ 2014 เจวายเจ เอเชีย ทัวร์ คอนเสิร์ต อินไทยแลนด์ เดอะ รีเทิร์น ออฟ เดอะ คิง (E-Intent Present 2014 JYJ ASIA TOUR CONCERT IN THAILAND THE RETURN OF THE KING) คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของปี 2014 ของสามหนุ่ม เจวายเจ คิมแจจุง ปาร์คยูชอน และ คิมจุนซู แม้ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายนซึ่งเป็นวันแสดงคอนเสิร์ต พายุฝนจะถาโถมกระหน่ำทั่วกรุง ทำให้การจราจรในวันนั้นรถติดสาหัส แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคของแฟนๆ ที่จะเดินทางไปให้กำลังใจ เจวายเจ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ได้เลย แล้วก็สมกับการรอคอยสมกับชื่อคอนเสิร์ตที่ว่า ‘THE RETURN OF THE KING’ เพราะงานนี้ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียงและซาวด์สุดอลังการ รวมทั้งเพอร์ฟอร์มแมนซ์ที่แข็งแรง บวกกับความน่ารักของทั้งสามหนุ่ม ทำให้แฟนๆ เดินออกจากฮอลล์ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจกันทุกคน
เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยวีทีอาร์เปิดตัวพวกเขาทั้งสาม เสียงกรี๊ดของแฟนๆ ก็ดังกระหึ่มขึ้นพร้อมกับแท่งไฟสีแดงถูกโบกไปทั้งฮอลล์ จากนั้นเวทีไฮดรอลิคก็ค่อยๆ ยกสามหนุ่ม เจวายเจ ขึ้นมาจากด้านล่างพร้อมกับเพลงแรก Creation ที่ดังกระหึ่มขึ้นแล้วต่อด้วยเพลง Be The One ก่อนจะตามมาอีกเพลง Bobo Boy เป็นการเปิดตัวโชว์แดนซ์ 3 เพลงติดกันรวด หลังจากนั้นสามหนุ่ม เจวายเจ ก็พักด้วยการทักทายแฟนๆ ที่มาให้กำลังใจพวกเขา โดยเริ่มจาก จุนซู “ยินดีที่ได้พบครับ(ภาษาไทย) คิดถึงพวกเราไหมครับ? พวกเราได้กลับมาพบพวกคุณอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 3 ปี คอนเสิร์ตวันนี้จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของปีนี้แล้ว พวกเรา เจวายเจ ก็เลยตื่นเต้นมาก ขอบคุณครับ(ภาษาไทย)” พูดจบก็ส่งต่อให้พี่ใหญ่ แจจุง ได้พูดต่อ “วันนี้ขอบคุณทุกๆ คนมาก ถึงแม้ว่าไม่ได้เจอกันมานาน แต่แฟนๆ ก็มาเจอกันมากขนาดนี้ ขอบคุณมากนะครับ พวกคุณไม่ได้ลืมพวกผมใช่ไหมครับ? เมื่อวานแถลงข่าวในห้างมีแฟนๆ ไปให้กำลังใจเยอะมาก และวันนี้ยังมาให้กำลังใจกันต่อที่นี่อีก พวกเรายินดีมากที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ยังไงก็ขอให้สนุกสนานกับคอนเสิร์ตวันนี้นะครับ” และสุดท้าย ยูชอน เริ่มต้นด้วยการทักทายแฟนๆ ว่า “สวัสดีครับ(ภาษาไทย) ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ ขอบคุณที่ไม่ลืม เจวายเจ วันนี้พวกเราจะเต็มที่ด้วยพลัง 100% พวกเราจะทำเต็มที่ ขอบคุณครับ(ภาษาไทย)”
ในช่วงสองเริ่มจากเพลงช้า Dad You There เพลงที่สื่อถึงความในใจของยูชอน ถึงคุณพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน ต่อด้วยไปซึ้งกับเพลง Let Me See เพลงจากปลายปากกาจากแจจุง แถมยังเป็นเพลงโปรดของเขาในอัลบั้มล่าสุด Just Us อีกด้วย และก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงโซโล่เดี่ยวของแต่ละคนก็มีวีทีอาร์ภาพน่ารักๆ ย้อนไปสมัยเด็กของสามหนุ่ม เจวายเจ รวมไปถึงภาพบรรยากาศการทำงานในห้องอัดของพวกเขาให้เรียกเสียงกรี้ด เมื่อวีทีอาร์จบลงก็ถึงเวลาของเมมเบอร์แต่ละคนจะโชว์พลังเสียงร้องและสเต็ปการเต้น เริ่มจากพี่ใหญ่ แจจุง ที่มาในชุดเสื้อเชิ้ตขาวเนื้อผ้าบางเบาปลดกระดุมทุกเม็ดกับกางเกงสีดำรัดรูป เผยให้เห็นซิกแพ็คที่ซ่อนไว้ โชว์พลังเสียงกับเพลง Dear J ต่อด้วยโซโล่ของ จุนซู กับเพลงช้าๆ อย่าง Age 7 งานนี้แฟนๆ ขอสร้างความประทับใจด้วยการทำโปรเจ็คชูป้ายเขียนว่า ‘Love Xia’ ให้ และก็ต่อด้วยโซโล่ของ ยูชอน ที่มาในลุคสบายๆ เสื้อเชิ้ตขาวเพื่อให้เข้ากับเพลง 30th – Lazy Life ซึ่งแฟนๆ ก็พร้อมใจชูป้ายโปรเจ็คให้ว่า ’30th is cool’ หรือแปลแบบไทยๆ ว่า ‘ผู้ชาย 30 แซ่บเว่อร์’ เรียกรอยยิ้มหนุ่มยูชอนได้ตลอดทั้งเพลงเลยทีเดียว
หลังจากฟังเพลงสบายๆ กันไปแล้วก็ถึงเวลากลับมาแดนซ์กันต่อกับแดนซ์แมชชีน คิม จุนซู ในเพลง Tarantallegra และเพลง Incredible ที่วาดลวดลายการเต้นได้สุดมันส์จนทำเอาผู้ชมลุกขึ้นยืนกระโดดเต้นตามไปด้วยเลยทีเดียว จากนั้นก็ส่งต่อเวทีให้กับยูชอน ซึ่งมาในเพลงน่ารักๆ อย่าง Spring Walk ซึ่งงานนี้มีฟองสบู่ปล่อยออกมาด้วยทำให้บรรยากาศของเพลงนี้ดูน่ารักขึ้นไปอีก หลังจากจบเพลงยูชอน ก็ได้เผยประสบการณ์ใหม่ในการมาเมืองไทยครั้งนี้นอกจากจะได้ไปตีกอล์ฟแล้วเขายังได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่เอ่ยปากว่าอร่อยที่สุดกันเลย “เมื่อคืนผมได้ไปเอกมัย รู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่เอกมัยไหมครับ เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ผมคิดว่าอร่อยที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยกินมาเลยล่ะครับ วันนี้อย่าลืมไปทานกันนะครับ” ทำเอาเรียกเสียงฮาจากแฟนๆ ในฮอลล์กันอย่างดังสนั่น ดูท่างานนี้แฟนคลับคงได้ตามหาร้านนี้กันจ้าล่ะหวั่นแน่นอน! หลังจากที่ชวนแฟนๆ ไปทานก๋วยเตี๋ยวกันแล้ว ยูชอนก็ขอโซโล่ต่ออีกหนึ่งเพลงกับ I Love You ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำเอาสาวๆ อดอมยิ้มไปกับเขาไม่ได้
แล้วก็ปรับหมวดอารมณ์ไปเจอกับร็อคเกอร์หนุ่มหน้าหวาน แจจุง ที่เปลี่ยนลุคสวมเสื้อกั๊กโชว์ซิกแพ็คกันอีกครั้งตามคำเรียกร้องของแฟนๆ มาในเพลง Butterfly ซึ่งแฟนๆ ก็พร้อมใจทำโปรเจ็คท์ชูกระดาษที่ตัดเป็นตัวผีเสื้อมองแล้วเหมือนโบยบินไปทั่วฮอลล์อย่างสวยงามทีเดียว จากนั้นก็กระชากอารมณ์ให้ร้อนระอุขึ้นไปอีกกับเพลง Mine ที่งานนี้หนุ่มแจจุงถึงกับถอดเสื้อกั๊กออกเผยซิกแพ็คและรอยสักสวยๆ ให้เห็นแบบเต็มตา และด้วยสีหน้าลีลาท่าทาง แสงสี และไฟที่พวยพุ่งออกมาเป็นระยะก็ยิ่งทำให้เพลงทวีความร้อนแรงขึ้น เลยทำเอาแฟนๆ นอกจากจะมองไม่วางตา พากันโยกตัวตามมันส์ไปกับเพลง พร้อมส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่น!
หลังจากมันส์ไปกับช่วงร็อคแล้วก็ปรับอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลงด้วยวีทีอาร์ภาพคอนเสิร์ตเก่าๆ ภาพน่ารักๆ ที่ผ่านมาของ เจวายเจ โดยพวกเขาได้เผยข้อความในใจถึงแฟนๆ ผ่านวีทีอาร์ด้วยก่อนจะเซอร์ไพรส์ ด้วยการปรากฏตัวบนรถเลื่อนคนละคันแล้วรถก็เคลื่อนไปรอบๆ ฮอลล์ พร้อมเพลง Found You ซึ่งงานนี้นอกจากแฟนๆ จะได้ใกล้ชิดกับสามหนุ่มแล้ว ใครที่โชคดีก็จะได้รับลูกบอลที่มีลายเซ็นที่หนุ่มๆ เขาโยนให้อีกด้วย ทำเอาบรรยากาศในฮอลล์ครึกครื้นสุดๆ จากนั้นสามหนุ่มก็ขอเผยความในใจกับแฟนคลับอีกครั้ง ซึ่งจุนซู เผยว่า เขารู้สึกนับถือสปิริตและพลังอันแสนเต็มเปี่ยมของแฟนๆ ชาวไทย พร้อมหยอดทิ้งท้ายเรียกเสียงกรี๊ดว่า อยากจะมาซื้อบ้านอยู่ที่เมืองไทยมากๆ และคอนเฟิร์มว่าผู้หญิงไทยสวยมากจริงๆ ก่อนย้ำว่าเวลาหลังจากนี้ในคอนเสิร์ตพวกเขาจะไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปสักวินาทีเลย
และเพื่อไม่ให้เสียเวลาตามที่บอก สามหนุ่มก็โชว์ยาวเลยเริ่มจากเพลงช้าๆเพลง So So , Be My Girl และ In Heaven ซึ่งเพลงเหล่านี้ถือเป็นเพลงที่โชว์ความสามารถทางด้านการร้องและการประสานเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ก่อนต่อด้วยเพลง Letting Go หนึ่งเพลงในอัลบั้ม Just Us แล้วเพิ่มจังหวะให้สนุกขึ้นอีกนิดในเพลง Valentine จากนั้นก็มาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต พวกเขายอมรับว่า รู้สึกเสียดายมากๆ แต่ถ้าจบช่วงนี้ไปแล้ว ถ้าแฟนๆ อังกอร์ร้องเรียกพวกเขาให้กลับมาพวกเขาก็จะกลับมาหาแฟนๆ อีกครั้ง ก่อนจะจบไปด้วยเพลงโปรโมทในอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา อย่าง Back Seat ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แฟนๆ ส่งเสียงร้องตามกระหึ่ม
หลังจากไฟบนเวทีดับลง แฟนๆ ก็ต่างส่งเสียงตะโกนเรียก “เจวายเจๆๆๆๆๆ” ดังกระหึ่ม! และก็เป็นไปตามสัญญาเมื่อสามหนุ่มกลับขึ้นเวทีอีกครั้ง อังกอร์เริ่มขึ้นกับเพลงฮิต Empty และต่อด้วย Get Out ก่อนปิดท้ายด้วยเพลงความหมายดีๆ อย่าง Fallen Leaves ซึ่งในเพลงนี้แฟนๆ ทั้งฮอลล์ก็ได้ทำโปรเจ็คร่วมกัน โดยที่นั่งบนสแตนมีการแปลอักษรเป็นภาษาเกาหลีว่า ‘언제나 기다릴게’ (ออน เจ นา คี ตา ริล เก) หรือ “จะรอ(พวกคุณ)ตลอดไป” ด้านผู้ชมในที่นั่งตำแหน่งอื่นๆ ก็โบกสะบัดแท่งไฟสีเหลืองสุกสว่างไปทั้งทั่วทั้งฮอลล์อย่างงดงาม ปิดฉากเอเชียทัวร์ในปี 2014 ของหนุ่มๆ เจวายเจ ไปอย่างน่าประทับใจ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาจะจดจำความประทับใจทุกๆ วินาทีในคอนเสิร์ตที่ไทยครั้งนี้ พร้อมกับคำสัญญาที่มีต่อกัน “แล้วพบกันใหม่” ได้แน่นอน
นับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจคท์ที่ทาง บริษัทอี-อินเทนท์ จัดให้แฟนๆ ชาว K-POP ได้ฟินกันทั่วหน้า และในโอกาสต่อไปก็จะมีโปรเจ็คท์ดีๆ มาทำให้แฟนๆ ได้สนุกกันต่อไปอีกแน่ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นทุกคนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/EINTENTMEDIA หรือ twitter/IG : E_INTENT
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ
ข่าวนี้เผยแพร่โดยมิวสิคเอ็มไทย — http://music.mthai.com — หากนำข่าวไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย
มิวสิคเอ็มไทย โดนใจ ทุก Social ติดตามความเคลื่อนไหว ได้ทาง facebook MThaimusic – Twitter @mthaimusic – Youtube musicmthaitube – Instagram : @musicmthai